ข้อควรพิจารณา… ก่อนเลือกฟิล์มกรองแสง


  1. การรับประกัน

การรับประกันคุณภาพเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาควบคู่ในการตัดสินใจ ส่วนมากการรับประกันฟิล์มกรองแสงนั้น จะรับประกันเรื่อง หลุด ร่อน โป่ง พอง แต่จะไม่ได้รับประกันในเรื่องของความซีดของสีฟิล์ม เพราะตัวฟิล์มจะเป็นสิ่งที่เจอกับแดดโดยตรง จึงทำให้มีโอกาสซีดจางได้ โดยทั่วไปแล้วฟิล์มกรองแสงจะมีการรับประกันคุณภาพไม่ต่ำกว่า 5 ปี บางราย 7 หรือ 10 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ซึ่งจะต้องดูรายละเอียด ของการรับประกันด้วย

 

  1. ฝีมือช่างต้องชำนาญ

การติดฟิล์มกรองแสง แม้ได้ฟิล์มคุณภาพ แต่หากช่างที่ติดตั้งไม่มีฝีมือ ก็ไร้ประโยชน์ การติดฟิล์มกรองแสงนั้น นอกจากคุณภาพของฟิล์มแล้ว หากต้องการให้ฟิล์มอยู่คงทนนานต้องขึ้นอยู่ที่ฝีมือของช่างคนนั้นด้วย ช่างที่ติดฟิล์มจะต้องมีฝีมือในการกรีดฟิล์ม เพราะหากมือไม่ดีพอ เวลาที่กรีดฟิล์มลงสู่กระจกจะทำให้ฟิล์มนั้นไม่เสมอกัน โดยเฉพาะตรง ขอบกระจก และถ้าเลวร้ายไปกว่านั้น บางครั้งอาจกรีดโดนกระจก และทำให้เป็นรอยได้

 

  1. กาวสะท้อนคุณภาพฟิล์ม

ฟิล์มกรองแสงที่ดีจะต้องพิจารณาจากคุณสมบัติของกาวด้วย กาวที่ดีต้องมี ความบางใส และเหนียว เมื่อติดแล้วต้องทนทานต่อสภาวะความร้อนเย็น ของกระจกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ยึดติดกับกระจกได้ดีไม่ทำให้ ฟิล์มกรองแสงนั้นๆ พอง ลอก ล่อน เป็นฟองอากาศ อีกทั้งกาวที่ดีควรมี คุณสมบัติที่ติดแน่นกับเนื้อฟิล์ม เมื่อต้องการลอกฟิล์มออกมา กาวควรอยู่ บนด้านฟิล์มมิใช่ด้านกระจก รวมทั้งกาวจะต้องไม่เปลี่ยนสี ซึ่งก่อให้เกิดการ เปลี่ยนสีของฟิล์มที่ติด ที่เรียกว่าฟิล์มเป็นสนิม

 

  1. รู้ทันเทคนิคการขายฟิล์ม

ในกรณีที่ร้านค้าบางร้าน มีการสาธิตหรือทดสอบคุณภาพของฟิล์มให้ดู เราควรพิจารณาถึงวิธีการทดสอบคุณภาพของฟิล์มด้วยว่าเชื่อถือได้หรือไม่ เช่น การทดสอบฟิล์มด้วยแสงสปอตไลท์ ไม่ว่าจะโดยการให้ผู้บริโภคใช้มืออัง หรือยืนท่ามกลางแสงสปอตไลท์ เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เพราะเราได้รับความร้อน จากแสงแดดไม่ใช่แสงสปอตไลท์ ซึ่งแหล่งกำเนิดแสงทั้งสองชนิดนี้ มีลักษณะแตกต่างกัน ควรดูว่าร้านค้ามีเครื่องมือและวิธีการในการ ทดสอบฟิล์มที่ได้มาตรฐาน และสามารถให้ค่าทดสอบที่แม่นยำหรือไม่

 

ประเภทของ ฟิล์มกรองแสง

ฟิล์มกรองแสง คือ พลาสติก ทำมาจากโพลีเอสเตอร์ที่มีความเหนียว บาง เรียบ ไร้รอยย่น และสามารถแนบสนิทเป็นเนื้อเดียว กับกระจกที่นำฟิล์มไปติด ซึ่งยึดอยู่บนกระจกได้ด้วยกาวที่มีความใส ไม่ทำให้ภาพที่มองผ่านฟิล์มบิดเบือน ฟิล์มกรองแสงนั้นทำหน้าที่ในการลด หรือกรองแสงสว่างที่ผ่านเข้ามาทางกระจก ดังนั้นฟิล์มกรองแสงทั่วไปจึงมีการย้อมสี เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะการกรองแสงสว่างเท่านั้น แต่ฟิล์มกรองแสงที่มีความสามารถมากกว่าฟิล์มกรองแสงทั่วไป จะต้องสามารถลดความร้อนและรังสีอุลตร้าไวโอเลตได้เป็นอย่างดี

 

เราสามารถแบ่งฟิล์มกรองแสงได้ 2 ประเภท คือ

  1. ฟิล์มย้อมสี เป็นฟิล์มที่มีคุณสมบัติในการลดแสงสว่าง ที่ผ่านเข้ามาทางกระจกเท่านั้น แต่ไม่ได้มีคุณสมบัติในการลดความร้อน หรือหากมีก็มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเมื่อมีการใช้งานไปสักระยะ ฟิล์มจะเกิดการเปลี่ยนสีเป็นสีม่วง ซึ่งให้ทัศนวิสัยในการขับขี่รถยนต์ที่ผิดเพี้ยน เป็นอันตราย แต่หากฟิล์มกรองแสงทั่วไปผลิตมาจากโพลีเอสเตอร์คุณภาพสูง จะมีคุณสมบัติในการลดรังสีอุลตร้าไวโอเลตด้วย
  2. ฟิล์มกรองแสงลดความร้อน หรือ ฟิล์มเคลือบโลหะ เป็นฟิล์มกรองแสงที่มีคุณสมบัติในการลดความร้อนที่ผ่านเข้ามา ทางกระจกได้ดีกว่าแบบแรก โดยอาศัยคุณสมบัติของไอโลหะที่เคลือบบนฟิล์มในการกรองความร้อน และสะท้อนความร้อน ซึ่งมีผลให้ความร้อนผ่านเข้ามาทางกระจกได้น้อยลง สีของฟิล์มที่ได้จะแตกต่างไปตามประเภทของไอโลหะที่นำมาเคลือบ รวมทั้งยังสามารถย้อมสีของฟิล์มเพื่อให้ฟิล์มมีสีต่างๆ ได้ โดยปกติกระบวนการเคลือบไอโลหะมีขั้นตอนซับซ้อน และค่าใช้จ่ายสูง